บุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวนต่างกันอย่างไร แบบไหนปลอดภัยกว่า ?

บุหรี่ไฟฟ้าvsบุหรี่มวน

จากที่หลายคนสงสัยกันมากมายว่า บุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวน มีความแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนส่งผลต่อสุขภาพมากกว่า ซึ่งทางเราได้รวบรวมข้อมูลหลายแหล่ง ทั้งงานวิจัย แหล่งข่าวต่าง ๆ ซึ่งในอดีตได้มีการคิดค้น สิ่งที่จะทดแทนบุหรี่ สำหรับผู้ที่อยากเลิกบุหรี่โดยไม่ทรมาน จนได้ถือกำเนิด บุหรี่ไฟฟ้าเกิดขึ้น วัตถุประสงค์เพื่อช่วยทดแทนบุหรี่มวน เป็นยาสูบรูปแบบใหม่ เป็นที่แพร่หลายในเหล่านักสูบ 

โดยในวันนี้เราจะมาเปิดเผยข้อมูลกัน ให้เห็นชัด ๆ ว่าน้องเล็กอย่างบุหรี่ไฟฟ้า จะดีกว่าพี่ใหญ่อย่างบุหรี่มวนอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าวงการหรือต้องการเลิกบุหรี่

สารบัญ

  1. บุหรี่ไฟฟ้า VS บุหรี่มวน ทำความรู้จักทั้ง 2 แบบ คืออะไร ?
  2. ส่วนประกอบของ บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวน
  3. หลักการทำงาน บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวน
  4. เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย
  5. บุหรี่ไฟฟ้า เป็นตัวเลือก ในการเลิกบุหรี่ได้จริงหรือไม่ ?
  6. ควันจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายไหม
  7. สรุปเนื้อหา

บุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวน ทำความรู้จักทั้ง 2 แบบ คืออะไร ?

นิยามของ บุหรี่มวนทั่วไป

เป็นยาสูบประเภทมวน ที่มีมานานหลายปี มีลักษณะรูปร่างเป็นทรงกระบอก โดยด้านหนึ่งจะใช้สำหรับจุดไฟ ส่วนอีกด้วนเป็นก้นกรอง สามารถดูดซับความชื่นจากการสูบ ซึ่งบุหรี่มวนจะมีควันที่เกิดจากการเผาไหม้ ก่อให้เกิดอันตรายทั้งตัวผู้สูบเอง และคนรอบข้างอีกด้วย และบุหรี่ดังกล่าวถูกจัดเป็นยาเสพติด ประเภทเฮโรอีน (HEROINE) จากองค์การอนามัยโลก (WHO) อีกด้วย

นิยามของ บุหรี่ไฟฟ้า

บุหรี่ไฟฟ้า เป็นยาสูบชนิดหนึ่ง  ที่นิยมอย่างกว้างข้าวในตอนนี้ โดยใช้กลไกของไฟฟ้าทำให้เกิดความร้อนและไอน้ำนั้นขึ้นมา และประกอบไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ โดยหลัก ๆ จะมี สารนิโคติน เป็นหนึ่งในสารเสพติด (ที่พบได้ทั้งในบุหรี่มวนและบุหรี่ฟ้า) , โพรไพลีนไกลคอล เป็นส่วนในส่วนประกอบที่ทำให้เกิดไอ และ สารประกอบอื่น ทั้งแต่งกลิ่นสีและรส เพื่อให้มีกลิ่นหอมแตกต่างกันออกไป ลักษณะของบุหรี่ไฟฟ้าถูกพัฒนาออกแบบเป็นแบบต่าง ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นแท่งแบบปากกา โดยผู้งานใช้แค่เพียง หัวน้ำยาเสียบเข้ากับตัวเครื่อง ก็สามารถใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องพกตัวเครื่อง หัวน้ำยา หรือแม้กระทั่งพันสำลีให้ยุ่งยาก ถือว่าตอบโจทย์ความสะดวกเป็นอย่างมาก 

ส่วนประกอบของ บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวน 

ในส่วนของส่วนประกอบของบุหรี่มวนธรรมดานั้น ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ซึ่งส่วนแรกคือ ใบยาสูบ (tobacca) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ยาเส้น มีลักษณะหั่นเป็นเส้นฝอย กระดาษสำหรับมวน และสารเคมีต่าง ๆ ที่ปรุงแต่ง เพื่อลดการระคายเคือง โดยสารเคมีต่างๆ เหล่านั้น ทำให้เกิด การเผาไหม้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย อีกทั้งสารเคมีกว่า 70 ชนิด ยังเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย

โครงสร้างของ บุหรี่ไฟฟ้า ถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหนึ่ง ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการทำงานเป็นหลัก  เพื่อให้เกิดความร้อนและไอน้ำ โดยส่วนประกอบหลักของบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแบ่งย่อยได้เป็น 4 ส่วน ดังนี้

  1. กล่องจ่ายไฟ เป็นส่วนที่ทำหน้าที่เก็บไฟฟ้า และปล่อยกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก จะแบ่งออกเป็นแบบกล่องที่มีส่วนประกอบหลักคือ ชิพเซ็ต ในการจ่ายไฟ , แบตเตอรี่ เก็บไฟเพื่อจ่ายกับขดลวดและเป็นมอท สำหรับยองสด
  2. อะตอม ทำหน้าที่เป็นส่วนรับไฟจากแบตเตอรี่ อยู่ตำแหน่งบนสุดที่ใช้ในการดูด และเป็นที่เก็บน้ำยาบุหรี่ โดยอะตอมจะมีหลายแบบ คือ
    • อะตอมแทงก์ สามารถเก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไว้ได้มากที่สุด ข้อดีของอะตอมแทงก์ สะดวกในการเติมน้ำยา ไม่ต้องมาเติมบ่อย ๆ แต่ต้องใช้งานร่วมกับคอยน์เสมอ
    • อะตอมกึ่งแทงก์ จะมีลักษณะหน้าตาคล้ายกับอะตอมแทงก์ แต่เก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้น้อยกว่า
    • อะตอมแบบหยดสูบ อะตอมชนิดนี้จะไม่สามารถเก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้ ซึ่งหากต้องการใช้จะต้องหยดน้ำยาลงสำลีในอะตอมก่อน และต้องคอยเช็คปริมาณน้ำยาอยู่เสมอ เพราะหากปล่อยไว้แห้ง อาจจะทำมห้สำลีและขดลวดไหม้ได้
  3. คอยล์ จะเป็นส่วนที่ทำให้เกิดไอน้ำออกมา โดยจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ คอยล์ที่มาจากโรงงาน สามารถพร้อมใช้งานได้ทันที และ คอยล์แบบที่ทำขึ้นเอง หรือที่เรียกว่า คอยล์โม ซึ่งคอยล์ดังกล่าว ต้องจัดทำโดยผู้ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญเท่านั้น
  4. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นส่วนที่ทำให้เกิดกลิ่นต่าง ๆ ในไอน้ำที่ออกมา ซึ่งในท้องตลาดมีจัดจำหน่ายอยู่หลายแบบ และการเลือน้ำยา ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล เพราะในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแต่ละชนิดมีปริมาณนิโคตินไม่เท่าหัน ทั้งนี้ผู้ใช้ควรศึกษาให้ละเอียดก่อนสั่งซื้อ

หลักการทำงาน บุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่มวน

การทำงานของบุหรี่มวน ใช้การเผาไหม้ของยาเส้นหรือใบยาสูบ จึงจำเป็นต้องใช้ความร้อนเป็นแหล่งกำเนิด ในกระบวนการ ของบุหรี่มวน คนส่วนใหญ่จึงจำเป็นต้องพกไฟแชคควบคู่ไปกับบุหรี่มวนเสมอ

ส่วนหลักการทำงานหลัก ๆ ของบุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นไปตามชื่อเลย เนื่องจาก บุหรี่ไฟฟ้านั้น มีการทำงานแบบพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งได้มาจากองค์ประกอบในส่วนของแบตเตอรี่นั่นเอง เมื่อกดใช้งาน ตัวบุหรี่ไฟฟ้าทำการจ่ายพลังงานไปยังแผงวงจรในเครื่อง เพื่อเกิดความร้อน โดยจะส่งผ่านขั้วแม่เหล็ก ระหว่างตัวเครื่องไปยังตัว คอยล์ โดยในตัวของคอยล์จะมีลวดที่จะใช้กระแสไฟฟ้าในการสร้างความร้อน ส่งผลให้สำลีที่บรรจุน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอยู่นั้น ระเหยกลายเป็นไอน้ำออกมา

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย

แม้จะเรียกว่าบุหรี่เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วทั้งองค์ประกอบและหลักการทำงานของบุหรี่ทั้งสองแบบ แตกต่างกัยโดยสิ้นเชิง โดยบุหรี่มวนนั้นจะใช้การเผาไหม้ ซึ่งจะมีสารอันตรายมากมาย ที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็ง และโรคทางเดินหายใจต่าง ๆ แต่บุหรี่ไฟฟ้าจะมีเพียงแต่สารนิโคติน ที่จะให้ติดเท่านั้น และความแตกต่างอื่น ๆ เราได้เปรียบเทียบเป็นข้อย่อย ดังนี้

  • บุหรี่ทั่วไปมีกลิ่นเหม็นติดตัวกว่าบุหรีไฟฟ้า
  • บุหรี่ทั่วไปต้องพกไฟเช็กไว้จุดทุกครั้ง
  • บุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป
  • บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีสารก่อมะเร็ง (Tar) 
  • ไอที่มาจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไปมาก
  • บุหรี่ไฟฟ้ามีกลิ่นให้เลือกตามความชอบของแต่ละบุคคล
  • บุหรี่ไฟฟ้าใช้งานง่ายกว่าบุหรี่ทั่วไป

บุหรี่ไฟฟ้า เป็นตัวเลือก ในการเลิกบุหรี่ได้จริงหรือไม่ ?

จากที่เราได้ค้นข้อมูลกันอยู่นาน พบว่า บุหรี่ทั้ง 2 แบบ ล้วนมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว โดยงานวิจัยล่าสุดชี้ชัดว่า บุหรี่ไฟฟ้าอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถช่วยเลิกบุหรี่ได้ มีความปลอดภัยกว่าบุหรี่มวน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บุหรี่ไฟฟ้าเอง ก็มีผลต่อสุขภาพเช่นกัน

โดยจากวิจัยหนึ่ง ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการทดลอง เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ต่อการเลิกบุหรี่ จากผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ จำนวน 890 ราย ซึ่งแบ่งผู้ทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในการเลิกบุหรี่ และกลุ่มที่รับยาบำบัดในการเลิกบุหรี่ โดยใช้ระยะเวลาในการทดลองติดต่อกัน 3 เดือน ควบคุมกับการให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมเพื่อเลิกบุหรี่  ระยะเวลาผ่านไปเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งผลจากงานวิจัยปรากฎว่า กลุ่มที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถเลิกบุหรี่ได้ถึง 18 % ส่วนกลุ่มที่ใช้ยาบำบัดเลิกบุหรี่ได้ 9.9% 

ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว จะเห็นได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยเลิกบุหรี่ได้ดีกว่าแต่อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 80 % จากกลุ่มที่ต้องการเลิกบุหรี่จากบุหรี่ไฟฟ้า กลับไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน ดังนั้นจากงานวิจัย บุหรี่ไฟฟ้านั้นอาจช่วยลดบุหรี่ได้จริง แต่ก็อาจจะติดบุหรี่ไฟฟ้าได้เช่นกัน 

ที่มา : โรงพยาบาลพญาไท

ควันจากบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายไหม

บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่กำลังมาแรงและเติบโตอย่างรวดเร็ว ในหมู่ผู้สูบบุหรี่ สาเหตุหลัก ๆ ที่ผู้คนหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า แทนบุหรี่มวน คือ ควันที่ออกมาจากบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีกลิ่นหอม น่ากิน หลากหลายรสสัมผัส ซึ่งแตกต่างจากบุหรี่มวนธรรมดามีกลิ่น ที่ไม่พึงประสงค์เท่าไหร่นัก อีกทั้งยังเป็นที่น่ารังเกียจ เพราะควันจากบุหรี่มวนธรรมดานั้น มีผลกระทบต่อผู้ที่ได้สูบควันเข้าไป แม้จะไม่ใช้ผู้ที่สูบ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ควันบุหรี่มือสองนั้นเอง

และคนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่า ควันที่ออกมาบุหรี่ไฟฟ้าเอง นั่นก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพต่อผู้ที่ได้กลิ่นเช่นกัน แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่ปล่อยออกมานั้นไม่ใช่ควัน แต่เป็นไอน้ำ ที่ระเหยออกมาจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยมีกลิ่นให้เลือกมากมาย เพียงแค่เลือก น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จะเลือกแบบที่มีนิโคติน หรือไม่มีก็ได้

ดังนั้น ควันบุหรี่มือสอง อาจจะเหมารวมบุหรี่ทุกประเภทไม่ได้ เพราะควันบุหรี่มือสอง นั่นหมายถึง ควันจากคนที่สูบบุหรี่มวนธรรมดา แล้วพ่นออกมา ส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง ที่สูดดมควันดังกล่าวเข้าไปในร่างกาย ทำให้เป็นอันตราย ส่งผลต่อสุขภาพพอ ๆ กับผู้ที่เป็นผู้สูบเองด้วยซ้ำ ซึ่งควันนั้นเกิดจากความร้อนของตัวบุหรี่มวนที่เอาไหม้ใบยาสูบ ที่มีสารนิโคตินอยู่ สารอื่น ๆ ที่เป็นอันตราย เช่น สารทาร์หรือน้ำมันดิน  ดังนั้น ในส่วนของบุหรี่ไฟฟ้าเอง ไม่ได้ปล่อยควันออกมา เป็นเพียงแค่ไอน้ำ ซึ่งไม่ได้เป็นอันตรายเท่ากับบุหรี่มวน

สรุปเนื้อหา

บุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า ล้วนแต่เป็นสิ่งเสพติดชนิดหนึ่ง ที่ส่งผลต่อสุขภาพแก่ผู้สูบ เพียงแต่หากศึกษาให้ละเอียดจะพบข้อดีและข้อเสีย ซึ่งจากบทความนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า บุหรี่ไฟฟ้า ราคาถูก มีหลากหลายที่แตกต่างจากบุหรี่มวน ทั้งลักษณะ ส่วนประกอบ แม้แต่หลักการทำงานที่ไม่เหมือนบุหรี่มวน อีกทั้งยังปลอดภัยหับคนรอบข้าง ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องควันบุหรี่มือสอง เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าถูกพัฒนามาจากบุหรี่มวน ที่ใช้สำหรับผู้ต้องการเลิกบุหรี่ ถือว่าใช้บุหรี่ไฟฟ้าทดแทนบุหรี่มวนได้ เพราะพัฒนาให้เกิดอันตรายที่น้อยกว่า ทั้งนี้ ปริมาณการสูบเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม